วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ไม่บังเอิญที่เรามาเจอกัน...จมูกสวยๆนี้ได้แต่ไดมา(เสริมครั้งแรก)

สวัสดีคะ ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อหงษ์นะ วันนี้เราจะมารีวิวการเสริมจมูกครั้งแรกในชีวิตที่คลินิคแถวรัชดาภิเษกซอย36 ซึ่งมีชื่อว่า Dmor clinic นั่นเองงงงงง ได้ยินแค่ชื่อแล้วก็อยากไปใช้บริการทุกวันเลยแหละ เข้าเรื่องเลยเนาะ (กระทู้นี้จะพูดแบบละเอียดนะคะ) 

การเสริมจมูกครั้งนี้เป็นการเสริมที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบทั้งเวลาและตัวของหงษ์เองคะ ซึ่งมันเป็นเหมือนได้ดั้งที่เสริมโหงวเฮ้งให้กับชีวิตเลยก็ว่าได้คะ เพราะช่วงที่เสริมนั้นเพิ่งได้ที่ทำงานใหม่พร้อมกับมีเวลาพักฟื้นหลังเสริมได้อย่างลงตัวคะ อิอิ

เนื่องจากหงษ์ดูรีวิวการเสริมจมูกหลายที่มากๆๆๆเพราะกลัวทำออกมาไม่สวยนหรือทำออกมาแล้วจะมีปัญหา ซึ่งหงษ์ว่าทุกคนที่คิดจะทำศัลยกรรมคงคิดเช่นเดียวกัน กลัวอะไรหลายๆอย่าง ที่สำคัญ กลัวงบไม่พอ อันนี้หงษ์ก็คำนึงเป็นอันดับต้นๆเลยคะ หงษ์รู้จักคลินิคนี้เพราะเห็นจากเพจใน FB คะ โดยที่เข้าไปดูรีวิวหลายๆเครสแล้วก็ถูกใจทรงจมูกมากๆพร้อมทั้งชอบเทคนิคการเสริมจมูกของที่นี่มากๆคะเพราะไม่เหมือนที่อื่น และที่สำคัญชอบตรงที่ ทรงจมูก+ราคาการเสริม+เทคนิคการเสริมของคุณหมอที่นี่ โดยรวมแล้วคุ้มค่ากับราคาไม่ถูกหรือแพงจนเกินไปคะ หงษ์ทำการส่องดูรีวิวจมูกที่ดีมอร์ทุกวันๆๆๆๆๆๆจนเวลาผ่านไป1ปีกว่าคะ 555555 เพราะตอนนั้นยังหาจังหวะการทำไม่ได้เลยอะคะ ก็ต้องรอไปก่อน จนกระทั่ง.......มาถึงปีนี้ ฟ้าก็ได้ประทานเวลาอันเหมาะสมในการทำสวยมาให้สักที บวกกับเก็บเงินได้พอทีจะไปทำสวยพอดีคะ อิอิ ก่อนการเสริมหงษ์ก็ได้ติดต่อไปที่Dmor clinic ทางไลน์คะ จนท.ที่นั่นก็ได้ติดต่อกลับมาโดยมี จนท.1คนที่มารับผิดชอบในส่วนการนัดหรือการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการเสริมจมูกในครั้งนี้คะ เมื่อเข้าไปคลินิคครั้งแรก ว้าว. คือสะอาดมาก ในคลินิคดีไซต์ได้สวย เรียบหรูจิงๆคะ พี่ๆพนักงานทุกคนต้อนรับดีมากคะ ยิ้มแย้มกันทุกคนเลย ยิ่งเข้าห้องคุณหมอนี้คือแบบคือดีคะ คุณหมอน่ารัก พูดจาดีมากก ให้คำปรึกษาที่ละเอียดจริงๆคะ หงษ์ทำกับคุณหมอตุ๊กนะคะ หงษ์ก็ได้นัดพบปรึกษากับคุณหมอก่อนโดยเราจะมาคุยรายละเอียดและให้คุณหมอดูทรงจมูกเราก่อนคะคุณหมอจะจับดูจมูกเราและแนะนำตามเนื้อจมูกเราคะ(ไม่ผิดหวังแน่นอนคะ) ส่วนตัวแล้ว จมูกหงษ์เป็นจมูกที่เนื้อค่อนข้างน้อยคะปลายจมูกเชิ่ดจมูกจะสั้น นี่แหละคะเป็นปัญหาที่หงษ์อยากทำจมูกเพราะหงษ์ชอบถ่ายรูป ชอบแต่งหน้า แล้วอีกอย่างอยากทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แต่งหน้าได้หลายสไตล์โดยที่ไม่ต้องกังวล และที่สำคัญการงานก็เป็นส่วนหนึ่งคะในการทำครั้งนี้ เมื่อนัดวันเวลากับคุณหมอแล้วหลังจากนั้นๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็รอเวลาอะคะ ตื่นเต้น และแล้ว...วันนัดการเสริมจมูกก็มาถึง ก่อนเข้าห้องพี่พนักงานที่ดูแลเครสหงษ์ก็จะมาดูแลก่อนเข้าห้องคะ จากนั้น แท๊นนนน แท่นนน ถึงเวลาแล้วคะ หงษ์ก็เข้าห้องโดยในห้องผ่าตัดจะเงียบสงบมากมีพี่พยาบาล1 คน อยู่ในห้องคอยพูดคุยก่ะเราด้วยนะตอนก่อนเสริม แต่ที่สังเกตในห้องผ่าตัดจะไม่มีนาฬิกาเลยคะเพราะที่นี่คุณหมอเค้าจะมีสโลแกนว่า ไม่สวยไม่ให้ออกห้องคะ อีกอย่างทุกเครสคุณหมอจะทำโดยที่ไม่ได้แข่งกับเวลาคะ แต่ละวันจะนัดเครสทำไม่เยอะคะ เพื่อการทำที่สมบูรณ์แบบไร้ปัญหาหลังการเสริมคะ ว่าแล้ว ก็ถึงเวลาสักที ขั้นแรกคุณหมอจะฉีดยาชาคะ จะเจ็บจี๊ดๆตอนฉีดเข็มแรกคะ มือคุณหมอเบามากคะ หลังจากนั้นหงษ์ก็ไม่รู้สึกเจ็บแต่จะรู้สึกว่าหมอทำอะไรกับเราอยู่คะ ขั้นตอนการทำทุกอย่างคุณหมอจะบอกให้เรารู้ตลอดนะคะ ​

ก่อนเสริมจมูกนะคะ​



นี่คือรูปหลังการเสริมทันทีคะ ไม่บวมหรือช้ำเลยคะ




หลังตัดไหม 14 วันนะคะ


ตอนนี้ระยะเวลาก็ 2 เดือน 22วันคะ






ผลลัพธ์ที่ได้จากคนรอบข้างทักตอนนี้คือ "ดั้งโด่งสวยเป็นธรรมชาติ" "ใบหน้ามีมิติมากขึ้น" อยากมีจมูกสวยดูดีต้องที่ดีมอร์เลยคะ ได้ทั้งคุณภาพความปลอดภัยที่นี่ใช้ซิลิโคนอเมริกาlmplant Grade นะคะ สวยในแบบของคุณต้อง Dmor clinic เท่านั้นคะ ไม่แน่ใจถามหงษ์ก่อนได้นะคะ ไม่ใช่หน้าม้านะคะ5555 แต่อยากรีวิวเพราะเสริมแล้วถูกใจจริงๆคะ



วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

แก้จมูก ที่ Dmor Clinic คือดีงามพระรามสิบมากค่าาาาา

สวัสดีค่ะสมาชิกทุกท่าน

ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ ชื่อใหม่ค่ะ
วันนี้อยากมาร่วมแชร์ประสบการณ์ในการแก้จมูกของตัวเองค่ะ
ใหม่ทำจมูกเดิมมา 7 ปี ซึ่งอันเก่าเป็นซิลิโคนเกาหลีก็จะแข็งๆทื่อๆหน่อย
สาเหตุหลักที่ต้องการอยากแก้เลยคือเบี้ยว ไม่มีหยดน้ำ คือปลายมันพุ่งแล้วทื่อมาก แถมซิลิโคนไม่ล็อคด้วยจ้าาาาาา
คือบิดไปไหนได้หมด บอกเลยว่าเวลาถ่ายรูปนะเศร้าสุดๆ ไม่มีความมั่นใจเลยยยยยย (ลากเสียง)
พยามยามลองจับบิดๆดูยังไงมันก็ไม่ช่วยอะไร
ยิ่งปีหลังๆมานี่เราจะนอยเรื่องจมูกมาตลอด อยากแก้มากๆ
แต่ก็ไม่มั่นใจหมอคนไหนเลย เพราะเราก็เห็นคนใกล้ตัวที่ไปทำมามันก็ไม่ได้สวยมากกกกกก
ต่อให้เป็นทรง Mantis (ตั๊กแตน) ก็ยังไม่เบี้ยวอยู่หลายคนเลย

จนวันหนึ่งที่ฟ้าทรงโปรด 555555

คือเพื่อนของเพื่อนเค้าไปทำมาแล้วสวยมากจ้า คือมันดีอะ
แล้วเพื่อนของใหม่เค้าก็ไปทำด้วย ใหม่ก็ยังไม่เชื่อนะ ก็เลยรอเวลาจนจมูกเพื่อนเข้าที่
เราก็เอ่อ........เห้ย หมอเก่งอะ งานดี ออกแบบทรงแต่ละคนให้เข้ากับจมูกเค้า แล้วเป็นธรรมชาติมากๆ
ใหม่ก็เลยเข้าไปกดติดตามหน้าเพจในเฟซบุค ก็ดูรีวิวเค้ามาพักนึง จนตัดสินใจโทรจอง
สาเหตุใหม่เลือกทำที่ ดีมอร์คลินิก (Dmor Clinic ก็เพราะว่าเราเห็นผลงานของหมอจากคนใกล้ตัวเราจริงๆ
ตัดสินใจวางมัดจำจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ทุกอย่าง
(จริงๆเราจะได้ทำตั้งแต่เดือน ก.ค. แล้วนะ แต่ติดงาน จนเลื่อนมาเป็น ส.ค.) 

และแล้วก็ถึงวันที่มาทำ

คลินิกดูสะอาดตามาก มีอุปกรณ์ในการล้างหน้าให้ด้วย ไม่ต้องพกมาก็ได้
พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ให้การต้อนรับและดูแลเราเป็นอย่างดีทุกคน
ของเราได้รอนานเพราะว่าเคสก่อนหน้าเค้างานค่อนข้างยาก
ระหว่างรอเราก็จะได้กรอกแบบสอบถาม ทำประวัติ
คืออยากบอกว่าที่นี่เค้าดีนะคะ เค้าให้ลูกค้าทำแบบสอบถามเพื่อเช็คความเข้าใจของตนเองไปในตัว
เราตอบได้หมดทุกข้ออย่างรวดเร็ว เพราะว่าเราทำความเข้าใจมาแล้วก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น

1. วิธีการทำที่วางใต้เยื่อหุ้มเพื่อช่วยลดความเบี้ยว เอียงในอนาคต แต่จะทำให้หายช้า บวมเยอะ อะไรทำนองนี้

2. ตัวซิลิโคนจากอเมริกา ที่ได้ความใกล้เคียงกับจมูกจริงของเรามากที่สุด

3. การตะไบฮั้มพ์ อันนี้เราเชื่อว่าทุกคนต้องคิดเหมือนเรานะว่า เห้ย... จมูกเราไม่เป็นไรนะ ไม่มีโหนก ไม่ต้องทำก็ได้มั้ง
แต่จริงๆคือควรอย่างยิ่งค่ะ การตะไบมันช่วยให้เราวางซิลิโคนได้แนบสนิทมากที่สุดนั่นเอง

4.  ข้อนี้เราชอบสุดคือ หมอตุ๊กเค้าจะไม่มีนาฬิกาในห้องผ่าตัดนะ หมอบอกว่าถ้าไม่สวย จะไม่ให้ออกไปพบชาวโลก5555
อันนี้จริง คอนเฟิร์ม หมอใจเย็นมากกกกกกที่สุดในสามโลก


ต่อกันเลยนะจ้า .....

ตอนเข้าห้องผ่า ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยน แบบว่าไม่เคยเลย เพราะก่อนหน้าเราทำแบบวางยาสลบค่ะ
หมอฉีดยาบอกเลยว่าไม่เจ็บเลยนะคะ แต่ที่เจ็บคือเราจะเจ็บแสบเพราะยาชาที่วิ่งไปตามเส้นเลือดค่ะ
ทนสัก 10 วิ มันก็จะเริ่มชาไปตามหน้า พอเข็ม 2-3-4 ก็จะเริ่มไม่รู้สึกอะไร
จากนั้นสักพักนึงหมอก็ลงมือปฏิบัติทำสวยให้ค่ะ ใช้เวลาทั้งหมดสักพักใหญ่ๆ
ไอ่เราก็หลับตาอย่างเดียวจ้า เสียงเซอราวด์รอบทิศทางมาหมด
เราชอบหมอตรงที่เวลาทำก็คือทำ ไม่ชวนกันคุยอะค่ะ คือหมอดูใส่ใจกับการทำงานนะ ปรบมือรัวๆ

ผลงานที่ได้ก็ตามภาพที่จะให้ชมกันต่อไปนี้นะคะ

เราออกไปไหนมาไหนก็หลังทำ 2 วันค่ะ ขึ้นเครื่องกลับวันที่ 4
ใช้เวลาหายบวม ช้ำจริงๆคือ 2 สัปดาห์
ก่อนหน้านั้นไม่นอยมาก เพราะเราเคสแก้ยังไงก็ต้องกว่าคนปกติ

เห็นหลายคนสอบถามราคา เราได้โปรรีวิวนะ 25,000 (ตอนนี้หมดโปรนี้ไปแล้วนะคะ จะเริ่มที่ 35,000)
ค่าแก้ 10,000 ค่าตะไบฮั้มพ์ 5,000 และค่ายา 2,500 รวม 42,500฿ จ้า

ปล. คนที่อยากหายบวม ไม่ช้ำมาก ให้ทานยาหยุนหนานไป่เหยารอเลย กับใบบัวบกนะ ซึ่งคลินิกก็มีให้ค่ะ ช่วยได้เยอะมากๆเลย

มาดูรูปกันดีกว่า อิอิ





ก่อนแก้จมูก พีคสุดก็รูปนี้แหละจ้า








1แล้วค่าาาา




2 เดือน






2 เดือน 24 วันแล้วค้าาาาา