วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ดั้งแท่งออกไป..ธรรมชาติเนียนใสใส วนมาค่ะ



รีวิวครั้งแรกอ่าน.วน.ไป.ค่ะ

เผือเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังศึกษา..หาข้อมูลค่ะ

ก่อนอื่นเลยแนะนำตัวก่อนชื่อเอ๋นะคะ 
เอ๋ตัดสินใจเลือกแก้จมุกที่ดีมอร์คลีนิค เพราะเชื่อใจและไว้ใจในฝีมือคุณหมอและสถานที่ค่ะ เอ๋หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และศึกษาหาข้อมูลจากคลีนิคมาพอสมควรค่ะก่อนตัดสินใจทำ พอได้เข้าไปพบคุณหมอ ทำให้การตัดสินใจที่จะแก้จมุกง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะคุณหมอให้คำแนะนำดีมาก อันไหนทำได้ไม่ได้แบบไหนคุณหมอก็บอกค่ะ  พนักงานที่ดีมอร์คลีนิคก็น่ารักค่ะ บริการถามไถ่ดี คลีนิคก็สะอาดค่ะ โดยรวมๆชอบทุกจุดนะคะ เลยตัดสินใจแก้ค่ะ วันแรกของการแก้ตื่นเต้นมากค่ะ ถึงจะเคยผ่านการทำจมุกมาแล้วครึ้งหนึ่งแต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี มีกังวลนิดหน่อยค่ะก่อนจะแก้ แต่พอขึ้นเตียงปุ๊บ คุณหมอน่ารักค่ะชวนคุย จับมือ รับรู้ได้ถึงความอบอุ่น555+ (จริงนะคะ) ตลายความกังวลไปได้เยอะค่ะ ผ่านไปชั่วโมงกว่ากับการนอนนิ่งๆอยู่บนเตียง คุณหมอก็บอกเอ๋ว่าเสร็จแล้วค่ะน้องเอ๋  ผู้ช่วยหมอเอากระจกยืนให้ดู โอ้! ทรงใหม่ สวยค่ะ ชอบเลย สมกับการแก้เพราะต่างจากทรงเดิมมาก ปลายจมุกหมอก็แต่งให้สวยค่ะ ชอบมาก ต้องขอบคุณคุณหมอตุ๊กมากค่ะ


ก่อนแก้นะค่ะ






มีความเอียง
มาดูหลังทำกันค่ะ





7วันแล้วจ้า



มาดูรุป1เดือนกว่ากันเลยค่ะหุหุ








สวยปลื้มเข้ากับหน้าไม่เป็นแท่งแล้วนะค่ะ  ดีใจมากเลยค่ะ
ไว้จะมาอัพให้ชมบ่อยๆนะค่ะ





แล้วจะไม่ให้หนูปลื้มได้ยังไงละคะ...ให้คุณดูดี ไดีอีก



สวัสดีคะ กอล์ฟนะคะ ก็จะมาแชร์ประสบการณ์เสริมจมูกครั้งแรกก

>>>ครั้งแรกที่ตัดสินใจเลือกทำจมูกที่ Dmor เพราะมั่นใจอะไรหลายๆอย่างกับที่นี่คะ ก่อนที่จะเลือกทำที่ดีมอร์ ก็เลือกดูหลายๆรีวิว หลายๆคุณหมอ หลายๆที่ เจอทั้งราคาที่ถูกกว่าหรือแพงกว่า ตอนแรกดูจากรีวิวต่างๆก็คงไม่มีใครเชื่อฝีมือคุณหมอคนไหนทุกคน มีทั้งคำติชมหลายๆแบบ แต่ที่เลือกทำที่ Dmor เพราะได้เข้าไปปรึกษา สัมผัสกับพี่ๆที่ต้อนรับและให้คำปรึกษาที่ดีมาก และที่สำคัญคือคุณหมอน่ารักมากๆเลยคะ ใจดีแถมหน้าเด็กแอบอิจฉา555555 ในใจไปแบบไม่มีรูปแบบจมูกเลย ให้คุณหมอออกแบบให้ คุณหมอจะบอกเลย ของหนูโด่งได้เท่านี้แบบนั้นแบบนี้นะลูก ถ้าสูงเกินคุณหมอกลัวทะลุ 

รูปก่อนทำคะ (ฐานเดิม พอมีอยู่นิดหน่อย)




และให้คำปรึกษาเรื่องการทำจมูก ดูแลแบบไหน วางใต้เยื่อหุ้มมีผลดียังไง คือไปวันแรกที่ปรึกษาก็ปลื้มใจแล้วคะกับการต้อนรับและการให้คำปรึกษาของที่นี้ 
>>>และอีกอย่างที่สำคัญ Dmor ทำจมูกไม่เหมือนที่อื่น เป็นการทำแบบการวางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้ม ก็ยิ่งสนใจมากขึ้น แอบติดตามผลงานของคุณหมอตุ๊กอยู่เรื่อยๆเลย วันที่แน่ใจว่าจะทำจมูกที่นี้ ก็จัดการแอดไลน์เข้าไป เจอกับเลขาคุณหมอตุ๊ก คือพี่ฟ้าคนสวย คุยกับพี่ฟ้าตลอดเลยคะ สอบถามรายละเอียดพี่ฟ้า พี่ฟ้าก็ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องทำจมูกทุกอย่างเลย ตั้งแต่วันที่เข้าไปปรึกษา จนถึงวันนัดทำ
>>>พอมาถึงวันที่ทำแล้วจริงๆ ใจกลัวแบบเดินออกจากห้องผ่าตัดได้ป่าว55555 บอกเลยคะคุณหมอมือเบามาก เบาตั้งแต่ฉีดยาชา ไอเรานี่ใจสั่นหมดแล้ว แต่คิดในใจต้องสู้ฮึ้บไว้55555 พอเข้าไปห้องผ่าตัดก็มีพี่ๆที่ดูแลเข้ามาชวนคุยนู้นนี่นั่นจนลืมความเจ็บปวด คุณหมอตุ๊กแล้วพี่แก้มยุ้ยนี่ชวนคุยจนขำ คุณหมอบอกว่ามีอะไรในใจพูดได้หมด ร้องเพลงให้คุณหมอและพี่แก้มยุ้ยฟังด้วย55555 จำได้เลยคะว่าทำประมาณเกือบ2ชม. คุณหมอทำเนี้ยบมาก ดูทุกรายละเอียด ก่อนทำคุณหมอบอกว่าเสร็จจากมือคุณหมอตุ๊กต้องสวยทุกคนคะ นาทีนั้นขอฝากความสวยไว้ในมือคุณหมอตุ๊กคนสวยอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เลยคะ คุณหมอตุ๊กและพี่ที่ดูแลนี่ชวนคุยไม่หยุดเลยตอนทำ หรือเราเองที่ชวนคุย กลบความกลัวนิดๆ55555




ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะด้วยเทคนิคการวางซิลิโคนของคุณหมอ
จึงทำให้มีอาการบวมช้ำเยอะหน่อย แต่หนูก็โอเครนะ เพื่อความสวย

ประคบเย็น ดื่มน้ำมะพร้าว วนนนนไปคะ





แล้วจะไม่ให้หนูปลื้มมมได้ไงละคะ  สวยจริงปังจริง!!!! ถ้าใครสนใจ ลองib เข้าไปสอบถามดูนะคะ



รีวิวศัลยกรรมจมูกเปลี่ยนชีวิตหมวยๆให้ดูมีมิติ ที่ D-Mor Clinic กับคุณหมอตุ๊ก ปาลิดา



สวัสดีทุกคนค่า ขอแนะนำตัวนิดนึงนะค้า  ชื่อลูกเกดค่ะ กับรีวิวทำจมูกครั้งแรกที่ Dmor Clinic ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่า ก่อนจะมาทำจมูกนี่หาข้อมูลอยู่ไม่กี่ที่เพราะเป็นคนไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ อันนี้ไม่ดีๆ 5555 แต่ว่าไปรู้จักกับพี่คนนึงซึ่งเค้าทำจมูกที่ Dmor Clinic มา แล้วดูสวยขึ้นมากกกกก ธรรมชาติสุดๆ ก็เลยปรึกษาพี่เค้าเลยค่ะว่าอะไรยังไง  ต้องทำยังไงบ้าง พี่เค้าเลยบอกว่าให้โทรไปที่คลินิกก่อนเลยว่าจะนัดเข้าไปปรึกษา จากนั้นก็ตัดสินใจโทรมานัดจองคิวปรึกษาเลยค่ะ พอวันนัดมาถึงวันนั้นมาคนเดียวค่ะ พี่ๆที่คลินิกเฟรนลี่มากๆค่ะ ให้เรากรอกประวัติส่วนตัวนิดหน่อย ละก็นั่งรอพบคุณหมอ รออยู่พักใหญ่ๆก็ได้คิวเข้าพบคุณหมอค่า คุณหมอติดคิวผ่าตัดอยู่เลยออกมาช้านิดนุง ระหว่างรอก็ตื่นเต้นๆพอพบคุณหมอ คุณหมอน่ารักมากๆ ใจดี  ยิ้มหวาน เป็นกันเองมากด้วย คุณหมอก็ถามว่าชอบแบบไหน อยากได้โด่งมั้ย มีทรงในใจมาให้หมอมั้ย ขอดูจมูกหน่อยน้า ละก็บอกเราว่าถ้าจมูกแบบเราทำได้แค่ไหน ละคุณหมอก็อธิบายว่าที่ดีมอร์คลินิกใช้เทคนิคการวางซิลิโคน โดยวางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งข้อดีคือ เป็นการล็อกซิลิโคนไม่ให้เบี้ยว ไม่เคลื่อนตัวหรือขยับได้ไม่เสี่ยงต่อการทะลุในอนาคต เวลารัดแกนจะไม่เป็นแท่งดูเป็นธรรมชาติ แต่หลังทำอาจบวมช้ำหน่อย นี่คือจุดที่ตัดสินใจเลือกทำที่นี่เลยแหละ  ก็เลยตกลงจองคิวกับพี่มุ้ย(เลขาคุณหมอ)เข้าทำเลยค่ะ  เราได้คิวทำหลังจากเข้าปรึกษาประมาณ1อาทิตย์ค่ะ ซึ่งก็คือวันที่ 12 มิถุนายน  2559 ก่อนเข้าทำก็จะได้เข้าพบคุณหมออีกครั้งและคุยถึงทรงที่อยากได้ เราไม่มีทรงในใจนะ แต่บอกคุณหมอว่าขอสวยหวานๆนะคะ แค่ไหนก็ได้ค่ะ เอาที่คุณหมอว่าสวยเลย แต่ส่วนตัวไม่ชอบโด่งมาก ขอธรรมชาติก็พอ  คุณหมอบอกว่าไม่ต้องห่วงที่นี่เป๊ะปังทุกคน555  ยิ่งเพิ่มความมั่นใจได้ว่าต้องออกมาสวย และที่สำคัญปลอดภัยแน่นอน อ่อ…เราเลือกซิลิโคนอเมริกา ทรงตั๊กแตนนะคะ เพราะจมูกเราจะได้มีปลายสวยๆ(อันนี้คุณหมอบอกมาค่า555) เคสเราตกแต่งตรงปลายจมูกเพิ่มด้วยค่ะ พอคุยกันเรียบร้อยก็ฉีดยาชา ละก็มานอนรอคุณหมอที่ห้องผ่าตัดเลยค่า พักนึงคุณหมอก็เข้ามาเช็คว่ายาชาชารึยัง หลังจากนั้นก็ฉีดยาชาเพิ่มและหมอขอเช็คอีกทีน้าว่าใช้ได้รึยัง ละก็…ลงมือผ่าตัดเลยค่า ห้ามตื่นเต้นเพราะถ้ายิ่งตื่นเต้นเลือดจะออกมาขึ้น เราไม่ตื่นเต้นเลย แถมเคลิ้มๆจะหลับ5555 ก็นอนเฉยๆนินา คุณหมอก็ทำไปเรื่อยๆค่ะ ประมาณ1ชั่วโมง เราก็ได้จมูกใหม่เป็นที่เรียบร้อย ออกมาทุกคนต่างบอกว่ามันเริ่มบวมๆแล้วน้า แต่เราแบบนี่ไม่บวมนะคะ เหมือนหนูรู้สึกว่า มีดั้งแล้ว นี่ไม่บวม555 เห่อค่ะ ก่อนออกมาจากคลินิกพี่มุ้ยก็จะมาแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง หลังทำจมูกไปแล้ว ประคบเย็น วิธีการนอน วิธีการล้างแผล ครบค่ะ ไม่ต้องห่วงเลย พอหลังจากยาชาก็หมดฤทธิ์ ก็ไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่คิด เราเฉยๆนะ มันเป็นความปวดๆนิดนึงที่ทนได้ ละก็ไม่บวมมากด้วย พูดมาเยอะมากกก เดี๋ยวเรามีภาพให้ดูค่า 


ก่อนทำ



หลังทำประมาณ10นาที หน้าสดมากก ล้างเครื่องสำอางค์หมดจด



วันที่6 เริ่มไม่บวมแล้วว ไม่ได้แต่งหน้าไปเรียนเลย มาเเค่คิ้วอย่างเดียว55



เริ่มเข้ารูปแล้ว



อันนี้ประมาณ3 เดือนค่า


4เดือนละน้า 



ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอขอบคุณคุณหมอตุ๊ก ปาลิดา และพี่ๆพนักงานทุกคนที่บริการเป็นอย่างดี ติดตามสอบถามทั้งก่อนและหลังทำใส่ใจมากๆ ยังไงถ้ามีโอกาสจะมารีวิวให้ดูอีกนะค้า ตอนนี้ประมาณ5เดือนแล้วค่า ชอบมากก ทุกคนต่างบอกว่าธรรมชาติ ดูไม่ออกเลยว่าทำมา เปลี่ยนชีวิตหมวยๆ ให้ดูมีมิติจริงค่าา ยังไงฝากไว้เท่านี้ละกันนะค้า ถ้าอยากได้จมูกสวยๆ ก็ให้นึกถึงDmor Clinicไว้เป็นที่แรกเลยละกันค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน



จมูกสวยธรรมชาติกับ Dmor clinic



สวัสดีทุกคนค่ะ  แนะนำตัวกันก่อนละกันเนอะ ชื่อนานาค่ะ กับรีวิวทำจมูกครั้งแรกที่ Dmore Clinic  ต้องบอกเลยว่าหาข้อมูลมาหลายๆที่พร้อมกับดูรีวิวก่อนจะตัดสินใจทำ จนมีรุ่นพี่ที่สนิทคนนึงพุ่งไปแก้จมูกมา เราเห็นว่าสวยดีและพี่เค้าก็แนะนำดีมอร์คลินิค เราก็เลยติดตามดูรีวิว และเข้าไปศึกษาดูถึงวิธีการและเทคนิคในการทำรวมถึงคุณหมอตุ๊ก ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษคุณหมอจะวางซิลิโคนใต้เยื้อหุ้มกระดูก ซึ่งข้อดีคือ เป็นการล๊อคซิลิโคนไม่ให้เบี้ยว ไม่เคลื่อนตัวจะได้ไม่เสี่ยงต่อการทะลุ  เวลารัดแกนจะไม่เป็นแท่งดูเป็นธรรมชาติ จึงได้ตัดสินใจนัดและมีโอกาสได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอตุ๊ก ปาลิดา คุณหมอใจดีมาก พูดจาเพราะ ยิ้มหวานตลอดเวลาเลยค่ะ  และวันนั้นก็ได้ตัดสินใจทันทีว่าต้องทำที่นี่  คุณหมอถามว่าอยากได้ทรงแบบไหน? ก็เลยบอกคุณหมอไปว่าอยากได้โด่งธรรมชาติ เข้ากับรูปหน้า แต่ต้องเท่าที่เนื้อรับได้มากที่สุดและปลอดภัย  นาเลือกซิลิโคนเมกา โดยเคสของนาคุณหมอบอกว่าจะต้องตะไบด้วยเพราะมีฮัมพ์จะได้ไม่เบี้ยวทีหลังด้วยค่ะ งั้น...มาดูรูปกันเลยดีกว่าค่ะ  


รูปก่อนทำค่ะ





หลังทำประมาณ เดือนกว่าๆ (ยังมีอาการบวมอยู่)




อัพเดทปัจจุบัน ตอนนี้ก็ราวๆ 4 เดือนกว่าแล้วค่ะ




สุดท้ายต้องขอต้องขอขอบคุณคุณหมอตุ๊กคนสวยมากๆค่ะ จมูกสวยเข้ากับหน้าและที่สำคัญปลอดภัยเพราะคุณหมอใช้เทคนิคพิเศษดูเนียน เป็นธรรมชาติสุดๆ มั่นใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครดูออกเลยว่าทำจมูกมา คุณหมอน่ารักมาก มือเบามากๆไม่รู้สึกกลัวเลยค่ะ การบริการอบอุ่นเป็นกันเองมากค่ะ รู้สึกดีใจและตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่ได้ไว้ใจให้ดีมอร์คลินิคเป็นผู้ดูแลค่ะ





วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

รีวิวแบบละเอียด Dmor Clinic เคสตะไบฮั้มพ์ แต่งปลายเรียว กับหมอตุ๊ก บวมกี่วัน ช้ำมากไหม เข้ามาดูกันค่ะ



สวัสดีค่า วันนี้มารีวิวให้เพื่อนๆดู ประกอบการตัดสินใจนะคะ


แนะนำตัวนะคะ เราชื่อเกด เดิมทีเนี่ยไม่เคยคิดจะเสริมจมูกเลย ไม่เคยมีอยู่ในหัวเลย เพราะคิดว่าของเดิมมันก็ไม่แย่มาก มั่นไปอี๊กกก แต่บางครั้งก็มีแว๊ปเข้ามาในหัวบ้างว่า ถ้าปลายมันขึ้นอีกนิดน่าจะดีกว่าน้า ลองเอาคัตตอนบัทแหย่รูจมูกตัวเอง แล้วยกขึ้น เพื่อนๆหลายคนอาจจะเคยทำ เออ มันก็ดูโอเคขึ้นมานะ เอาไงดีอยากทำๆ เข้าเว็ปดั้งโด่งมาดูผลงานของคุณหมอหลายๆท่าน แล้วก็มาเจอหลายๆเคสของคุณหมอตุ๊ก Dmor Clinic ที่ดูแล้วเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ เหมือนที่อยากได้เลย เพราะส่วนตัวชอบแบบธรรมชาติ อยากให้เป๊ะขึ้นแค่นั้น เลยแอดไลน์ทางคลินิคไป ได้พี่แก้มยุ้ยคอยแนะนำ และนัดวันทำจมูก มาได้วันที่  1 ตค.


เอาหละ ได้เวลาบินลัดฟ้ากันมาเล๊ยยย ลืมบอกค่ะ เนื่องด้วยเรามีเวลาในไทยจำกัดมากๆ แค่ 19 วัน ก็แอบลุ้นนะคะ ว่าจะมีปัญหาอะไรไหม เพราะถ้าต้องเลื่อนตั๋วเนี่ย ต้องมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะเลย แต่ก็ผ่านไปด้วยดีค่าา



นี่คือรูปก่อนทำนะคะ นี่คือวันที่คลินิคเลย สังเกตว่า ปลายจะตก และมีฮั้มพ์ตรงกลาง




นี่ก่อนทำอีกรูปค่ะ



หลังทำเสร็จทันทีนะคะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการทำ ตอนทำไม่เจ็บเลยค่ะ ตอนฉีดยาชาเราก็ไม่เจ็บนะคะ คุณหมอมือเบามาก คุณหมอจะถามตลอดว่าเจ็บไหม และชวนคุยผ่อนคลายบรรยากาศ แต่มันจะมีช่วงยาชากำลังหมดฤทธิ์เราก็ขอคุณหมอเติมค่ะ หลังทำเสร็จคุณหมอบอกว่าอย่านอยถ้ามันช้ำ เพราะเคสตะไบฮั้มเนี่ย ต้องช้ำอยู่แล้วอะค่ะ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละคนด้วย ช้ำมากหรือช้ำน้อย เราเองก็ชอบดูพวกรีวิวมาก่อนหน้านี้ จะเจอเคสที่ช้ำม่วงเขียว เราก็ทำใจไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าช้ำ เดี๋ยวก็หาย กลับบ้่านมาประคบเย็นตลอดค่ะ พี่แก้มยุ้ยคอยแนะนำว่าต้องทานอาหารอะไรบ้าง ไม่ควรทานอะไร และให้ถุงเจลประคบมาหนึ่งถุงค่ะ เคสเรามีกระดูกเบี้ยวด้วยคุณหมอให้ใส่เฝือกอ่อนช่วยพยุง 14 วันจนตัดไหมเลยค่ะ



วันที่สองตื่นมาลุ้นค่ะ จะบวมมากไหม แต่ก็ไม่เท่าที่คิดไว้ค่ะ ออกไปข้างนอกได้ แต่พยายามจะทำอะไรกระทบกระเทือนนะคะ แปลกมากที่ไม่เจ็บแผลเลย ตั้งแต่ทำเสร็จคือกินยาแก้ปวดแค่เม็ดเดียวหลังทำทันที แล้วก็ไม่ได้กินอีกเลย น้ำมะพร้าวนี่เราดื่มแทนน้ำเปล่าเลยค่ะ วันละหลายลูกมาก ส่วนถุงเจลเราเอาถุงมือมาใส่น้ำแล้วแช่ช่องฟรีสไว้ค่ะ ประหยัดๆเนอะ





วันที่สาม วันนี้คือบวมหนักที่สุดค่ะ ใต้ตาคือบวมสุดๆ ประคบเย็นกันต่อไปอย่าให้ขาดค่ะ พอตอนเย็นความบวมหายไปเยอะมาก และไม่ม่วงเลยค่ะ



วันที่สีไม่ไหวแล้วค่ะ ผมมันมากเลยออกไปสระผม ตอนช่างไดร์ผมเสียวพลาดมาโดนดั้งมากค่ะ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี วันที่ห้าคือเริ่มยุบแล้ววว ตื่นเต้น อยากเห็นดั้งตัวเองมากๆ เราไม่มีอาการช้ำเขียวเลย ก็เลยไม่ได้ประคบร้อนเลยค่ะ ถ้ามีอาการม่วงเขียวควรประคบร้อนเพื่อไล่เลือดที่แข็งตัวข้างในออกไปนะคะ สังเกตนะคะ รูจมูกจะดูบานๆ เลิกๆขึ้นไป ตอนนี้แอบกังวลค่ะ ว่ารูมันจะเห็นชัดไปตลอดหรือเปล่า




วันที่ 5 และ 6 ค่ะ ออกไปเจอผู้คนได้แล้ว วันที่ 6 ไปงานรับปริญญาเพื่อนค่ะ ไปทั้งเฝือกแบบนี้แหละค่ะ เก๋ดี (หรออออ)



วันที่ 7-8-9 ความบวมเริ่มหายไป กลางเป็นเหลืองๆแทน แต่ถือว่าเหลืองน้อยมากค่ะ เริ่มเห็นดั้งกันรึยังคะ ^^ ช่วงนี้งดล้างหน้านะคะ แต่เราใช้ใยบุกชุบน้ำหมาดๆแล้วขัดหน้ากับโฟมล้างหน้าของ Lure ขอบอกว่าอ่อนโยนต่อหน้ามากกก ใช้คู่กับใยบุกคือดีงามค่ะ มันจะลดสัมผัสระหว่างมือเรากับหน้า ทำให้ไม่สะเทือนแผลเลยค่ะ ส่วนความมันตรงเฝือกจมูกต้องทำใจค่ะ คอยเอาซับมันเช็ดๆมันไป




อย่างที่บอกไว้ตอนแรกนะคะว่าเราต้องใส่เฝือกเป็นเวลา 14 วัน แต่เราทนความคันและความมันใต้เทปไม่ไหวเลยไลน์ไปถามพี่แก้มยุ้ยขอแกะเทปออก เลยได้แกะออกวันที่ 10 ค่ะ รูจมูกที่เราบอกว่ามันดูบานๆก็ยุบลงเรื่อยๆค่ะ สรุปเป็นเพราะมันยังบวมอยู่ตอนแรกนั่นเอง







รูปนี้คือ หนึ่งเดือนครึ่งค่ะ



ภาพรวมเป็นที่พอใจมากค่ะ ธรรมชาติ ดูไม่ค่อยออกเพราะคุณหมอใช้เทคนิควางซิลิโคนชั้นใต้ผิวหนังทำให้ไม่เห็นเป็นแท่งและป้องกันการเบี้ยวและทะลุ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากแต่มีมิติมากขึ้นค่ะ คุณหมอจะเลือกให้เข้ากับหน้าเราและโด่งเท่าผิวเราจะรับไหวค่ะ 

เดี๋ยวจะมาอัพให้ดูเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ ^^